21 พฤษภาคม 2552

สำนึกผู้จัดแข่งมอเตอร์ไซค์

หากยังไม่มีสำนึกที่ถูกต้องของผู้จัดแข่งรถมอเตอร์ไซค์ และผู้สนับสนุนกีฬาแข่งมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยจะเจริญไปทางไหน

สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย ตามกฎหมายการกีฬามีหน้าที่สอดส่องดูแลเพื่อจัดระบบการแข่งขันให้อยู่ภายใต้นโยบายที่ก่อให้เกิดความปลอดภัยและยุติธรรมต่อนักแข่งและผู้ชม

การไม่ขอรับรองการแข่งขันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้จัด ตราบเท่าที่ผู้จัดมีจิตสำนึกของการเป็นนักธุรกิจที่ดี คำนึงถึงความปลอดภัยของนักแข่งและผู้ชม ตลอดจนถึงกรรมการในสนามย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวของผู้จัดเอง

หากย้อนมองดูตัวเองของผู้จัดที่ไม่ประสงค์จะให้สมาคมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง(เสือก) ก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของผู้จัดเอง

หากมองส่วนรวม นักแข่งรถระดับรากหญ้าได้รับความปลอดภัยและยุติธรรมหรือไม่

ทุกวันนี้ผู้จัดและกรรมการในสนามล้วนมีส่วนได้ส่วนเสียกับการแข่งขัน กับนักแข่ง ทำให้ความยุติธรรมไม่ได้อยู่ในจิตสำนึก

การสร้างสนามโดยใครก็ตาม คำนึงถึงความปลอดภัยแค่ไหน (อย่าคิดว่าสยามทำสนามปลอดภัย)

เงิน1500บาท เพื่อขอรับรองการแข่งขันเป็นเพียงแค่เงินเบื้องต้นที่ผู้จัดที่เล็งเห็นความสำคัญยินดีจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งยังมีค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกหลายพันหรือหลายหมื่นบาท รวมทั้งจะต้องรายงานผลการแข่งขันเพื่อเก็บเป็นสถิติและทะเบียนนักกีฬา

แต่หากมีจิตสำนึกที่ดี เงินค่าธรรมเนียมถือว่าเล็กน้อยมาก เพราะผู้จัดล้วนมีผลประโยชน์ที่ได้จากหยาดเหงื่อและความเสี่ยงของนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์หากผู้จัดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและยุติธรรม ย่อมเป็นผลดีต่อผู้จัดเองอย่างไม่ต้องสงสัย

งาน Meeting ซึ่งผู้มีอันจะกินซื้อรถจากตลาดมืด โดยตัวเองมีความสามารถต่ำสูงไม่เท่ากัน ไม่ฟิตซ้อมร่างกาย จนเกิดการสุญเสียมาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นความต้องการของผู้จัดอย่างนั้นหรือ

การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้กำหนดการทำงานของสมาคมเพื่อให้นักแข่งได้รับสวัสดิการที่ดี มีความปลอดภัยสูง

ทะเบียนนักกีฬาจะมาจากไหนถ้าไม่ใช่มาจากผู้จัด แต่ผู้จัดกับไม่คำนึงถึงเรื่องสวัสดิการ คิดอยู่อย่างเดียวคือการหาเงินเข้ากระเป๋าโดยการเหยียบย่ำวงการกีฬาด้วยการไม่เคารพในกฎระเบียบสากล

เงินค่าสมัคร นำมาลงขันเป็นเงินรางวัล ใครๆก็ทำได้

เงิน1500บาท คงจะทำให้ผู้จัดเดือดร้อนถึงขนาดกระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อวิชาชีพกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ ก็ขอให้อนุโมทนา เก็บเงิน1500บาทไว้กินเหล้าหลังแข่งเถิดครับ รับรองว่าวงการเจริญแน่

สมาคมไม่รวยขึ้นกับเงิน1500บาท แต่กลับจนลงเพราะเมื่อรับเงิน1500บาท ยังจะต้องรับภาระอื่นอีกมาก ยิ่งไม่ได้เงินค่าแซงชั่นก็ยิ่งไม่จน

ช่วยกันยกระดับ นักกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์เพื่อศักดิ์ศรีของวงการ ด้วยการให้โอกาสนักแข่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักกีฬากับการกีฬาแห่งประเทศไทย น่าจะเป็นประโยชน์และเกียรติยศของนักแข่ง ดีกว่าแข่งขันกันใต้ดิน หาประโยชน์ให้นักกีฬาแข่งรถไม่ได้ ยกเว้นประโยชน์ที่เกิดกับผู้จัดแต่ฝ่ายเดียว

เงินค่าแซงชั่น1500บาท คงไม่สะเทือนกระเป๋าเสี่ยทั้งหลาย และเงินค่าใบอนุญาตแข่งขันเพียง100-200บาทต่อปี ถูกกว่าเสื้อแข่งเสียอีก

ที่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าสมาคมต้องการเงิน1500บาท

ผู้จัดที่อ้างว่าสมาคมช่วยเหลืออะไร เมื่อต้องเสียค่าแซงชั่นก็อยากจะถามย้อนกลับว่า ผู้จัดได้ให้อะไรกับนักแข่งบ้าง นอกเหนือไปจากเงินรางวัลที่ได้จากค่าสมัคร เอามาลงขัน แถมจ่ายรางวัลตามสัดส่วนการสมัคร ไม่เอาเปรียบนักแข่งไปหน่อยหรือ พูดง่ายๆคือ"โกงนักแข่งซึ่งหน้า"

ฝากมายังผู้จัดที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองนักแข่ง ที่ชอบถือคติ "ลูกกู หลานกู ไม่ใช่ลูกมึง หลานมึง " คุณคือผู้ทำลายกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์อย่างแท้จริง ไม่รู้จักคำสปิริต หรือน้ำใจนักกีฬา

ติดต่อศูนย์ กกท. ประจำจังหวัดของท่าน ทั้งผู้จัดและนักกีฬา จะเป็นหนทางที่จะนำท่านสู่ความถูกต้องตามกฎระเบียบและกฎหมายการกีฬา

พูดง่ายๆว่า จะได้เป็น “บัวพ้นน้ำ”

4 ความคิดเห็น:

  1. สำนึกดีของผู้จัดแข่งมอเตอไซค์
    ผมอยู่ในวงการแข่งรถตลอดมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ถามว่าผมได้อะไรบ้าง(เปล่าเลยครับ)ซ้ำอนาคตของลูกที่ผมสนับสนุนดับวูบลงไปอย่างหน้าเสียดาย(เวลา)ในช่วงที่ผมอยู่ในวงการผมได้เป็นผู้จัดการแข่งขันไม่น้อยกว่า 5-6 ครั้ง หรีออาจจะมากกว่านั้น ทุกครั้งที่จัดผมได้ติดต่อขออนุญาตจัดการแข่งขัน จากสมาพันธ์ฯ-สมาคมฯทุกครั้ง เมื่อกอ่นผมจ่าย 3000บาท/ครั้ง(ไม่ทราบว่าลดเหลือ1500บาทตั้งแต่เมื่อไร่)แต่ช่างเถอะมันไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะแสดงความคิดเห็นในวันนี้(02/05/52)วันนี้ผมจะแสดงเหตุผลตอบโต้ MSATในหัวข้อ สำนึกผู้จัดแข่งมอเตอร์ไซค์
    ประเด็นแรก เรื่องความปลอดภัยในการสร้างสนามแข่ง ผมเห้นด้วยว่า ไม่ว่าสยามสร้างสนามหรือใครก็แล้วแต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เราต้องไม่ลืมว่า กีฬามอเตอร์สปอร์ตคือกีฬาประเภคความเร็ว เพราะฉะนั้นไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า สนามที่ขออนุญาติสมาคมฯหรือ สนามเถื่อน(ที่เขาว่ากัน)จะได้รับความปลอดภ้ยใการแข่งขัน ถามว่า " แล้วผู้จัดการแข่งขันจะจ้าง สยาม ไปทำสนาม(ซึ้งค่าตัวค่อยข้างสูง)และขออนุญาติสมาคมฯไปทำไม (ถ้าต้องจ่ายเงิน)
    ประเด็นที่สอง ที่พูดว่าผู้จัดเอาเงินค่าสมัครมาเฉลี่ยจ่ายเป็นค่าเงินรางวัลใครก็จัดได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมว่าป่านนี้ในเมืองไทย คงมีผู้จัดเกิดขึ้นทั่วประเทศแล้วครับ คนที่พูดได้อย่างนี้แสดงว่าไม่เคยรู้ระบบการเงินของการจัดการแข่งขัน
    ประเด็นที่สาม ที่เขียนว่าผู้จัดเอาเปรียบนักแข่ง"โกงนักแข่งซึ่งหน้า"ผมว่าคำนี้เป็นคำพูดรุนแรงไปหน่อยครับ ไม่มีหรอกที่ผู้จัดจะได้ประโยชน็เหมือนอย่างที่หลายคนคิด ถ้าจะให้วงการนี้อยู่(ไม่ต้องคิดถึงการเก้าไปข้างหน้านะครับเพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว)นักแข่งและผู้จัดต้องเข้าใจซึ่่งกันและกัน ผู้จัด(ส่วนมาก)ทำไปเพราะ รัก-ชอบ ไม่ได้หวังประโยชน์ในการจัดการแข่งขัน นักแข่งก็อย่าเรียกร้องผลประโยชน์มากเกินไป ให้เข้าใจและเห็นใจผู้จัดด้วย แค่นี้และครับวงการนี้จะอยู่ต่อไปได้ ผมว่าต่อนี้ไปให้ติดต่อ กกท.ประจำจังหวัดเป็นดีที่สูด (แต่ต้องไม่มีการแซงชั่นนะครับ..เจ้านาย/

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อยากเเข่งทำไงครับ สมัครที่ไหนอะไรยัง
      ที่ผมอยากแข่งเพราะใจผมรักมากๆ ช่วยบอกผมด้วยครับ ?

      ลบ
    2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  2. ก็ว่ากันไป ... หลากหลายความคิดครับ

    ผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละผมว่า

    ยิ่งพวก มอเตอร์ไซค์มือสอง นะ

    ตอบลบ